logo
กรมธนารักษ์
สำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครสวรรค์
THE TREASURY
DEPARTMENT
MENU
  • A
  • A
  • A

เกี่ยวกับจังหวัด

 

จังหวัดนครสวรรค์

 

 

 

http://61.19.96.11/tanarak/admin/admin_province/news_pic.php?newsId=62&orderNo=1

ประวัติความเป็นมาและเหตุการณ์สำคัญ

 

 

 

         นครสวรรค์ เป็นเมืองโบราณซึ่งสันนิษฐานว่าตั้งขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยมีปรากฏชื่อในศิลาจารึกเรียกว่า เมืองพระบาง เป็นเมืองหน้าด่านสำคัญในการทำศึกสงครามมาทุกสมัย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงธนบุรีจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ตัวเมืองดั้งเดิมตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาขาด(เขาฤาษี) จรดวัดหัวเมือง(วัดนครสวรรค์) ยังมีเชิงเทินดินเป็นแนวปรากฏอยู่ เมืองพระบาง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองชอนตะวัน เพราะตัวเมืองตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และหันหน้าเมืองไปทางแม่น้ำซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกทำให้แสงอาทิตย์ส่องเข้าหน้าเมืองตลอดเวลาแต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นชื่อ เมืองนครสวรรค์ เพื่อเป็นศุภนิมิตอันดี
        นครสวรรค์ มีชื่อเรียกเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาแต่เดิมว่า ปากน้ำโพ โดยปรากฏเรียกกันมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามประวัติศาสตร์ในคราวที่พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาครั้งสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กองทัพเรือจากกรุงศรีอยุธยาได้ยกไปรับทัพข้าศึกที่ปากน้ำโพ แต่ต้านทัพข้าศึกไม่ไหวจึงล่าถอยกลับไป

 

        เนื่องจากเมืองนครสวรรค์เป็นหัวเมืองชั้นตรีซึ่งปรากฏอยู่ตามกฎหมายเก่าในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระเอกาทศรถ ราว พ.ศ. 2100 ว่าด้วยเรื่องดวงตราประทับหนังสือที่ให้เสนาบดีเจ้ากระทรวงใช้ในราชการ ดังนั้น เมืองนครสวรรค์ จึงมิได้มีบทบาทที่ถูกกล่าวถึงไว้ในประวัติศาสตร์สำคัญของไทยเท่าใดนัก
        จังหวัดนครสวรรค์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง หรือภาคกลางตอนบน ห่างจากกรุงเทพฯ มาทางทิศเหนือ 237 กิโลเมตร โดยทางรถยนต์สายเอเซียและ 250 กิโลเมตร โดยทางรถไฟ มีเนื้อที่ 9,597.677 ตารางกิโลเมตรหรือ 5,998,
548 ไร่ อาณาเขตติดต่อกับจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้
         ทิศเหนือ  ติดดต่อกับ จังหวัดพิจิตร,
กำแพงเพชร
         ทิศใต้  ติดต่อกับ จังหวัดลพบุรี,อุทัยธานี,
ชัยนาท และสิงห์บุรี
         ทิศตะวันออก 
ติดต่อกับ จังหวัดเพชรบูรณ์
         ทิศตะวันตก  ติดต่อกับ จังหวัดตาก

 

http://61.19.96.11/tanarak/admin/admin_province/news_pic.php?newsId=62&orderNo=2

 

 

เทศกาลการท่องเที่ยวของจังหวัดนครสวรรค์

จะมีเทศกาลท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเริ่มจาก

 

 

       1.เดือนมกราคม " ปีใหม่เมืองสี่แคว ท่านจะตื่นตลึงกับอภิมหาตำนานแผ่นดินต้นแม่น้ำเจ้าพระยาในงานฉลองปีใหม่ กาชาดนครสวรรค์ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ชมการแสดง แสง สี เสียง และสื่อผสม แผ่นดินต้นเจ้าพระยา เอกนครานครสวรรค์ กลางลำน้ำเจ้าพระยา ชมการประกวดธิดากาชาด การแสดงของเหล่าดารานักร้องชั้นนำทั่วฟ้าเมืองไทย การแสดงสินค้า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ "

 

       2.เดือนกุมภาพันธุ์ "ตรุษจีนแห่มังกร ท่านจะพบกับบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง "เทศกาลตรุษจีนเมืองนครสวรรค์ ที่ประดับด้วยโคมแดงทั้งเมือง นำสู่ความตื่นตาตื่นใจกับขบวนแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพ ขบวนแห่รถเจ้าแม่กวนอิม ขบวนแห่นางฟ้าโปรยดอกไม้ ขบวนแห่สิงโต ขบวนแห่มังกร ขบวนแห่เอ็งกอพะบู๊ และขบวนแห่อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังได้ชมการแข่งขันเชิดสิงโตนานาชาติอีกด้วย

 

       3.เดือนมีนาคม "พักผ่อนบึงบอระเพ็ด ชมการประกวดอาหาร ห่อหมกใบบัว น้ำพริกลงเรือ ส้มตำไหลบัว การประกวดวาดภาพ ปลาตู้ ปลากัดไทย ปลาทอง ลิ้มรสอาหารปลา ผลิตผลจากบึง สินค้าเกษตร ชมการแข่งขันกีฬาชาวบึง มวยบึง ดำน้ำทน ดำน้ำไกล ถ่อเรือแข่ง พายเรือหมู

 

       4.เดือนเมษายน "ปลารสเด็ดปากน้ำโพ เชิญลิ้มรส ปลาสดๆนานาพันธุ์ จากแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน แม่น้ำเจ้าพระยา บึงบอระเพ็ด อาทิเช่น ปลาทอด ปลานึ่ง แป๊ะซะ ปลาอบฟาง ทอดมันปลากราย ลูกชิ้นปลากราย ซึ่งเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครสวรรค์

 

       5.เดือนพฤษภาคม "มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเมืองร้อน ท่านจะได้พบกับการแสดงและประกวดกล้วยไม้นานาพันธุ์ การประกวดจัดสวนกล้วยไม้ การประกวดสี การประกวดหยก โป๊ยเซียน การประกวดชวนชม แค๊ทตัส และโกสน ซึ่งเป็นการจัดบอนไซ ไม้ดัด บอน มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเมืองร้อนที่ยิ่งใหญ่

 

       6.เดือนมิถุนายน "ปีนเขาหน่อรอนางพันธุรัตน์ พาท่านไปชมป่าหินที่สวยที่สุดในนครสวรรค์สัมผัสกับลานลั่นทมอายุนับร้อยปี ชมการแข่งขันไต่เขา เข้าสู่ตำนานพื้นบ้านพระสังข์ทอง สัมผัสนางพันธุรัตน์และฝูงลิงป่าจำนวนมาก ยามเย็นใกล้พลบค่ำ ท่านจะละลานตากับฝูงค้างคาวจำนวนนับล้านตัวโบยบินออกหากินมองเห็นเป็นสายสีดำพริ้วไปมาบนท้องฟ้าเป็นทางยาวสวยงามมาก

 

       7.เดือนกรกฎาคม "เที่ยวทุ่งหินเทิน ชมทุ่งหญ้าเชิงเขาที่มีกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ ตั้งวางซ้อนกันในลักษณะสัมผัสกันเล็กน้อย ซึ่งนับว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์เป็นสวนหินธรรมชาติ ที่สวยงามและแปลกประหลาดมหัศจรรย์มาก ชมการทำผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ และเลือกซื้อผ้าพื้นเมืองจากกลุ่มแม่บ้าน

 

       8.เดือนสิงหาคม "ตามรอยพระยุคลบาทเสด็จประพาสต้น การลงเรือล่องแพตามเส้นทางเสด็จประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวง ในรัชกาลที่ 5 ที่เสด็จประพาสต้นในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อ พ.ศ. 2449 โดยนำท่านเข้าบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบ Package Tour ซึ่งท่านจะได้ตามรอยพระพุทธบาท ได้ชื่นชมภาพประวัติศาสตร์และพระราชกรณียกิจในการเสด็จประพาสต้นแล้วยังจะได้ลิ้มรสอาหารรสเด็ดปากน้ำโพและดื่มด่ำกับสภาพธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถเก่าวัดเกาะหงส์ชมศิลปะล้ำค่าของวัดพระปรางค์เหลือง

 

       9.เดือนกันยายน "ท่องป่าไพศาลี การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ด้วยการเดินป่าศึกษาธรรมชาติท่านจะได้สัมผัสกับน้ำตกซับสมบูรณ์ที่สวยงามแฝงอยู่ท่ามกลางแมกไม้เป็นน้ำที่ไหลลงมาตามร่องเขาโลมนาง ลักษณะน้ำตกจำนวน 7 ชั้น ขนาดใหญ่ 4 ชั้น เป็นแก่งเล็กๆ 3 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล สวยงาม จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความท้าทาย ซึ่งท่านจะได้รับความประทับใจจนยากที่จะลืมเลือนได้

 

       10.เดือนตุลาคม "ประเพณีทางน้ำ ชมการจัดงานประเพณีวิถีชีวิตชาวปากน้ำโพที่อาศัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นที่อาศัยเลี้ยงชีพอย่างต่อเนื่องกันมานับร้อยๆปี ชมการแข่งขันเรือยาวจากทั่วประเทศและการแข่งขันกองเชียร์จากตำบลต่างๆ

 

       11.เดือนพฤศจิกายน "ลอยกระทงสายพายเรือดูนกน้ำ ประเพณีลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ตระการตาท่านจะได้ชมขบวนแห่กระทงและการแข่งขันทำกระทงครอบครัวเพื่อเป็นการปลูกฝังความรัก ความสามัคคี ความอบอุ่นให้เกิดขึ้นภายในครอบครัวและที่งดงามอย่างยิ่งคือท่านจะได้ร่วมลอยกระทงสายโดยกระทงจะลอยตามกันไปเป็นสายยาวนับร้อย นับพันไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา มีความงดงามอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับบึงบอระเพ็ดบึงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยวิธีการพายเรือชมดอกบัวนานาพันธุ์ รวมทั้งฝึกภาคปฏิบัติ วิธีใช้กล้องดูนก และรู้จักนกพันธุ์ต่างๆ จากชมรมดูนกบึงบอระเพ็ด

 

       12.เดือนธันวาคม "ขอพรหลวงพ่อพรหม ชมเมืองจันเสน ขอเชิญท่านนมัสการ "หลวงพ่อพรหม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและเชิญชมการประกวดพระเครื่องหลวงพ่อพรหม ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองสี่แคว จะพาท่านสัมผัสกับคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์ของซากเมืองโบราณสมัยฟูนัน สุวรรณภูมิและทวาราวดี สิ่งของโบราณที่ประเมินค่าไม่ได้กว่า 5,000 ชิ้นทั้งเครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับ ตุ๊กตา ซึ่งได้ถูกรวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑ์ "จันเสน สัมผัสกับความงามของถ้ำจำนวนมากมาย มีทั้งหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกๆ ผนังถ้ำมีลักษณะเป็นกากเพชรเมื่อมีแสงกระทบจะเป็นประกายสวยงามมาก หลังจากนั้นจะพาท่านไปชมชิมส้มรสชาดอร่อยซึ่งมีนับพันไร่ และชิมอาหารอร่อยของเมืองตาคลี ซื้อของฝากผลิตภัณฑ์จากกะลา ผ้าทอจันเสนลายโบราณที่สืบทอดมานับร้อยปี

 

                  ของฝากเมืองนครสวรรค์

         1.ขนมเปี๊ยะนมสด(ขนมโมจิ) เป็นขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ มีร้านขายขนมโมจิหลายร้านในจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นของฝากจากจังหวัดนครสวรรค์
       
2.ผลิตภัณฑ์งาช้างแกะสลัก ที่อำเภอพยุหะคีรี เป็นงานฝีมือที่น่าสนใจมาก มีทั้งเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงพระพุทธรูปและงาช้างแกะสลักทั้งอัน ในอำเภอพยุหะคีรีมีอยู่หลายร้าน
       
3.ผลิตภัณฑ์หินอ่อน มีผลิตเป็นของที่ระลึก เช่น แจกัน ที่เขี่ยบุหรี่ ที่เสียบปากกา ขัน มีร้านอยู่บริเวณเชิงเขากบ
       
4.กุนเชียง มีชื่อทั้งกุนเชียงหมู และกุนเชียงไก่ มีร้านขายอยู่ถนนจุฬามณี
       5.เครื่องจักรสาน เครื่องใช้ในครัวเรือน ของที่ระลึกเครื่องประดับตกแต่ง มีอยู่บริเวณบ้านกลางแดด 
ต. กลางแดด อ. เมือง จ.นครสวรรค์
       
6.แหนมเนื้อ มีทั้งประเภทห่อใบตอง และใส่หลอดพลาสติกเป็นแท่งๆ มีร้านขายอยู่บริเวณสวรรค์วิถี
       7.น้ำผึ้ง จากตัวเมืองนครสวรรค์-อุทัยธานี ระยะทางราว 10 กิโลเมตร เศษ จะมีเพิงของชาวบ้านตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ขายรังผึ้ง (ผึ้งขนาดเล็กที่เรียกว่าตัวมิ้ม) และน้ำผึ้งซึ่งได้มาจากป่าแถบเขาทองและเขาโยง หลังหมู่บ้านแถบนั้น

 

     

http://61.19.96.11/tanarak/admin/admin_province/news_pic.php?newsId=62&orderNo=3

   
 

 

 

 

        ที่มาของคำว่า ปากน้ำโพ สันนิษฐานได้ 2 ประการคือ อาจมาจากคำว่า ปากน้ำโผล่ เพราะเป็นที่ปากน้ำปิง ยม และน่าน มาโผล่รวมกันเป็น ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา หรืออีกประการหนึ่ง คือมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่ตรงปากน้ำในบริเวณวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลเจ้าพ่อกวนอูในปัจจุบัน จึงเรียกกันว่า ปากน้ำโพธิ์ ก็อาจเป็นได้
        ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงนำพระพุทธรูปชื่อ พระบาง ไปคืนให้เมืองเวียงจันทร์แต่ติดศึกพม่าต้องเอาพระพุทธรูป พระบางมาค้างไว้ที่เมืองนี้ ต่อมาไทยรบทัพจับศึกกับพม่าและปราบหัวเมืองฝ่ายเหนือที่แข็งเมืองยกมาตีกรุงศรีอยุธยา และตอนต้นกรุงเทพฯ กองทัพไทยได้ยกเคลื่อนที่ขึ้นมาเลือกนครสวรรค์ (ที่เคยเป็นโรงทหารเก่าหลังโรงเหล้าปัจจุบัน) เป็นที่ตั้งทัพหลวงแล้วดัดแปลงขุดคูประตูหอรบ จากตะวันตกตลาดสะพานดำไปบ้านสันคูไปถึงทุ่งสันคู เดี๋ยวนี้ยังปรากฏแนวคูอยู่ เมื่อข้าศึกยกลงมาจากทุ่งหนองเบน หนองสังข์ สลกบาตร และตะวันออกเฉียงใต้ของลาดยาวมาเหนือทุ่งสันคู เมื่อฤดูแล้งเป็นที่ดอนขาดน้ำ ถ้าฝนตกน้ำก็หลากเข้ามาอย่างแรงท่วมข้าศึกไทยยกทัพตีตลบหลัง พม่าวิ่งหนีผ่านช่องเขานี้จึงได้ชื่อว่า เขาช่องขาดมาจนบัดนี้

 

สภาพปัจจุบัน

http://192.168.9.55/tanarak/admin/admin_province/news_pic.php?newsId=62&orderNo=4

10 กรกฎาคม 2556 | จำนวนเข้าชม 2951 ครั้ง